ชีวิตบั้นปลาย ของ สังข์ พัธโนทัย

ในปี 2521 มาดามเติ้ง หยิ่ง เชา ภรรยาของนายกรัฐมนตรีโจว เอิน ไหล ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานสภาประชาชนแห่งชาติ ซึ่งเป็นตำแหน่งเทียบเท่ารองประธานาธิบดีของจีน ได้เชิญนายสังข์และครอบครัวไปเยือนประเทศจีนฉันมิตรเก่า ซึ่งขณะนั้นนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหลของจีน ได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว 2 ปี การเดินทางเยือนจีนครั้งนั้น นายสังข์ได้ขอให้ทางจีนพาเยือนเมืองแต้จิ๋วด้วย เพราะอยากศึกษาค้นคว้าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชาวแต้จิ๋วกับชาวไทยแต่โบราณ และเมื่อกลับมาถึงเมืองไทย นายสังข์ ได้ลงมือเขียนหนังสือเรื่อง “เที่ยวเมืองแต้จิ๋ว ความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้าตากสินกับพระเจ้ากรุงจีน” ลงนิตยสารประโคนชัยขณะกำลังใกล้จะเขียนหนังสือจบแล้วนั้น นายสังข์ก็เกิดล้มป่วยเป็นอัมพาต และรัฐบาลจีนได้เชิญตัวนายสังข์ให้ไปรักษาตัวที่ปักกิ่ง และเมื่อกลับจากรักษาตัวที่ปักกิ่งแล้ว นายสังข์ก็ได้เขียนหนังสือเรื่อง “ไปรักษาอัมพาตที่ปักกิ่ง” รวมถึงยังพยายามมานะเขียนสารคดีประวัติศาสตร์เรื่อง “เรื่องแปลกๆของท่านจอมพลแปลก” ลงเผยแพร่ในนิตยสารประโคนชัย แม้ขณะนั้นโรคหัวใจได้เริ่มเบียดเบียนอย่างหนักแล้วก็ตามในบั้นปลายชีวิตนอกจากการอุทิศกำลังกายและกำลังปัญญาเพื่องานเขียนหนังสืออย่างเต็มที่แล้ว ยังช่วยงานกระชับมิตรภาพไทยจีนอยู่เป็นเนืองๆ รวมถึงยังทำงานเพื่อยุติการสู้รบกันระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์ไทยกับรัฐบาล โดยเป็นตัวกลางติดต่อประสานงานให้บุคคลชั้นนำของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่นายสังข์รู้จักมาก่อน เข้ามาพบปะเจรจากับฝ่ายรัฐบาลอย่างลับๆ เพื่อหาทางยุติการฆ่าฟันระหว่างคนไทยด้วยกัน โดยบุคคลสำคัญของฝ่ายรัฐบาลที่นายสังข์ติดต่อประสานงานด้วยคือ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ พล.ต. สุดสาย หัสดิน และ พล.ต.ต. เกษม แสงมิตร ซึ่งนายสังข์กับพล.อ. ชวลิต ได้ตัดสินใจที่จะเสี่ยงเข้าไปเจรจากับฝ่ายพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ทางภาคอีสานด้วย นอกจากนี้ ยังได้ช่วยงานของขบวนการกู้ชาติเขมรเสรีของ ฯพณฯ ซอนซาน นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐบาลประชาธิปไตยกัมพูชา เพื่อหวังให้กัมพูชา ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของไทย กลับคืนสู่ความเป็นปึกแผ่นและพ้นจากการครอบครองของเวียดนามรวมถึงพยายามช่วยเหลือท่านอูนุ อดีตนายกรัฐมนตรีพม่าผู้เป็นประชาธิปไตย กลับคืนอำนาจ หลังจากถูก นายพลเนวิน นำทหารเข้าปฏิวัติรัฐประหาร โดยนายสังข์ ได้เป็นผู้จัดหาสถานที่ตั้งของพรรคและสถานที่ออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียงให้แก่ท่านอูนุ เพื่อปลุกระดมชาวพม่าให้ลุกขึ้นกำจัดระบอบเผด็จการทหาร เพื่อฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยขึ้นใหม่ในพม่านายสังข์ เริ่มล้มป่วยอีกครั้งด้วยโรคหัวใจ และในวันที่ 4 มิถุนายน 2529 หลังจากอาบน้ำรับประทานอาหารเช้า นายสังข์ ขอนิตยสารประโคนชัย ซึ่งตนเป็นผู้เขียนเองทั้งหมดจากนายมั่น พัธโนทัย เพื่อนำเข้าไปอ่านในห้องนอน และก็พบนอนเสียชีวิตอยู่กับพื้นห้อง โดยมีนิตยสารประโคนชัย ปิดอยู่ที่หน้าอก